รีวิวประสบการณ์งานซ่อมแก้ไขงานช่าง จากประสบการณืจริงที่เจอในหน้างานพร้อมทั้งแนะนำแนวทางในการตรวจสอบและแก้ไข
วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2561
วิธีแก้ไขแอร์รถยนต์ JAZZ อาการเย็นสู้แดดไมได้ เย็นบ้างไม่เย็นบ้าง
วันนี้มีงานแก้ไขระบบแอร์รถยนต์แจ๊สอาการแอร์ไม่เย็น เย็นไม่ฉ่ำ เวลารถจอดหรือติดไฟแดงแอร์ไม่เย็น แอร์ทำความเย็นไม่ได้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าระบบน้ำยาแอร์ 134a พร่องไปและพบว่าที่บริเวณชุดแผงระบายความร้อนบริเวณด้านด้านอุดตัน และพบว่าพัดลมชุดระบายความร้อนด้านหน้าจากเดิมมี 2 ตัว ทำงานได้เพียงตัวเดียว เมื่อทำการตรวจจนแน่ใจแล้วว่าทั้งหมดคือสาเหตุที่ทำให้แอร์รถยนต์แจ๊สคันนี้ไม่เย็น เย็นน้อย เย็นไม่ฉ่ำ เย็นสู้แดดไม่ได้ก็ได้ข้อสรุปว่าต้องดำเนินการแก้ไขอะไรบ้าง ดังนี้
1.ถอดตู้คอล์ยเย็นบริเวณคอนโซนด้านหน้าออกมาล้างทำความสะอาด
2.เปลี่ยนซีนโอริงบริเวณจุดต่อสายทางด้านแรงดันสูง และแรงดันต่ำ
3.เติมน้ำมันคอมเพรสเซอร์เพิ่มเติมเล็กน้อย
4.ถอดชุดโบว์เวอร์พัดลมใต้คอนโซนด้านหน้าออกมาล้างทำความสะอาด
5.ล้างแผงระบายความร้อนบริเวณด้านหน้ารถยนต์ให้สะอาดด้วยน้ำยาล้างคอล์ย
6.เปลี่ยนพัดลมช่วยระบายความร้อน 1 ตัว ทดแทนของเดิมที่เสียไป
จากนั้นก็เริ่มลงมือแก้ไขทันทีโดยเริ่มจากการปล่อยน้ำยาออกจากระบบให้หมดก่อน เมื่อปล่อยน้ำยาออกไปหมดแล้ว ก็ใช้ประแจเลื่อน 2 ตัวทำการคลายข้อต่อของสายน้ำยาออก แล้วเริ่มรื้อชุดคอนโซนหน้าออกที่ละชิ้นๆ จนมองเห็นชุดคอล์ยเย็น จากนั้นก็ดึงชุดคอล์ยเย็นออกมาทำการถอดฝาครอบคอล์ยเย็นออก เพื่อนำชุดคอล์ยเย็นออกไปล้างทำความสะอาดโดยใช้วิธีฉีดน้ำแรงดันสูง ล้างทำความสะอาดจากนั้นฉีดน้ำยาล้างคอล์ยและใช้น้ำแรงดันสูงฉีดทำความสะอาดคอล์ยเย็นอีกครั้งให้สะอาด เพื่อให้สามารถระบายความเย็นได้ดีขึ้น จากนั้นเริ่มถอดชุดโบว์เวอร์พัดลมเป่าความเย็นออกมาล้างทำความสะอาดที่บริเวณใบพัดลม จากนั้นทำการคอดชุดกระจังหน้าและสปอยเลอรืด้านหน้าออกให้หมด ใช้ปั๊มน้ำแรงดันสูงฉีดปรับปลายกระบอกปืนฉีดน้ำให้ฉีดออกมาเป็นฝอยกระจาย จากนั้นฉีดไปที่บริเวณแผงระบายความร้อนด้านหน้าสัก 2 รอบ เมื่อฉีดน้ำล้างเบื้องต้นเสร็จแล้วจึงน้ำน้ำยาล้างทำความสะอาดคอล์ยร้อนฉีดลงบนแผงระบายความร้อน ทิ้งไว้สักประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้น้ำยาล้างเริ่มทำความสะอาดโดยการกัดคราบสกปรกออกมา โดยสังเกตุจากบริเวณแผงระบายความร้อนจะเริ่มมีฟองผุดออกมาพร้อมคราบสกปรก เมื่อทิ้งไว้ครบตามเวลาที่กำหนดแล้วใช้น้ำแรงดันสูงฉีดล้างเพื่อทำความสะอาด จากนั้นฉีดน้ำยาล้างคอล์ยเข้าไปอีกครั้งแล้วล้างออกให้สะอาด เมื่อดำเนินการเสร็จทุกขั้นตอนแล้วก็ประกอบชิ้นส่วนกลับ จากนั้นเปลี่ยนซีนโอริงบริเวณข้อต่อสายทั้ง 2 เส้น เมื่อเปลี่ยนโอริงเสร็จแล้วใช้ประแจเลื่อนขันล็อกเกลียวให้แน่น จากนั้นต่อสายเกจวัดแรงดันเข้าท่อน้ำยาทั้ง 2 เส้น โดยการต่อสายเกจด้านแรงดันต่ำเข้าท่อทางดูด (ท่อเย็น) และต่อสายเกจด้านแรงดันสูงเข้าทางด้านอัด (ท่อร้อน) และต่อสายเกจสีเหลืองเข้าที่เครื่องปั๊มสุญญากาศ จากนั้นเปิดเครื่องปั๊มสุญญากาศให้ทำงาน และเปิดวาวล์เกจทั้งสองด้านออกเพื่อให้เครื่องปั๊มสุญญากาศดูดเอาอากาศภายในระบบออกมาให้หมด โดยสังเกตที่ชุดเกจวัดแรงดันน้ำยาด้านแรงดันต่ำเข็มวัดต้องตกลงมาอยู่ที่ 0 หรือต่ำกว่า จากนั้นทดลองปิดวาวล์เกจทั้ง 2 ด้านทิ้งไปประมาณ 30 นาที สังเกตดูที่เข็มเกจด้านแรงดันต่ำต้องอยู่ตำแหน่งเดิม ไม่เลื่อนขึ้นมา หากเข็มเกจเลื่อนขึ้นมาแสดงว่าระบบมีการรั่วต้องทำการตรวจสอบและแก้ไขใหม่ จากนั้นทำการแว๊กระบบใหม่อีกครั้ง เมื่อทำการแว๊กระบบเสร็จแล้วไม่พบการรั่วให้ทำการเติมน้ำมันคอมเพรสเซอร์เพิ่มเข้าไปตามปริมาณที่สูญเสีย โดยการเทน้ำมันใส่กระบอกตวงตามปริมาณที่ต้องการ จากนั้นนำสายเกจวัดแรงดันสีเหลืองจุ่มลงไปในกระบอกที่มีน้ำมันคอมเพรสเซอร์ จากนั้นเปิดวาวล์เกจวัดแรงดันด้านต่ำออกเพื่อให้ดูดน้ำมันคอมเพรสเซอร์เข้าไปในระบบ เมื่อเติมน้ำมันคอมเพรสเซอร์เข้าไปแล้ว ให้ทำการแว๊กสุญญากาศใหม่อีกครั้ง ตามขั้นตอนข้างต้น จากนั้นจึงนำสายเกจสีเหลืองมาต่อเข้ากับถังน้ำยาแอร์ R134a เปิดวาวล์ถังน้ำยาออก จากนั้นทำการไล่อากาศภายในสายน้ำยาออกให้หมด โดยการคลายข้อต่อสายสีเหลืองบริเวณด้านใต้เกจวัดแรงดันออกเล็กน้อยเพื่อไล่อากาศออก โดยสังเกตจากเมื่อคลายสายสีเหลืองออกจะมีแรงดันน้ำยาพุ่งออกมาจากนั้นหมุนสายเกจเข้าให้แน่นเหมือนเดิม จากนั้นเปิดวาวล์เกจทางด้านแรงดันต่ำเพื่อให้น้ำยาแอร์ไหลเข้าไปในระบบ ฟังเสียงน้ำยาไหลเข้าไปจนเสียงฟี๊ดเงียบไป ปิดวาวล์เกจทางด้านแรงดันต่ำ แล้วไปสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ทำงานจากนั้นเปิดระบบแอร์ให้ทำงานโดยปรับเทอร์โมสตัทไปที่ตำแหน่งเย็นสุด และปรับสปีดพัดลมไปที่ตำแหน่งแรงสุด จากนั้นออกมาดูที่เกจวัดแรงดันน้ำยาว่ามีปริมาณน้ำยาอยู่เท่าไหร่ หากน้ำยาน้อยให้เติมน้ำยาเพิ่มเข้าไปให้อยู่ในระดับ 30 psi ทางด้านแรงดันต่ำ ,และแรงดันทางด้านสูงไม่เกิน 200 psi.
วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2561
วิธีการซ่อมรั่วแอร์มิตชูบิชิ Heavy Duty คอล์ยเย็นรั่วแบบละเอียดทุกขั้นตอน
วิธีซ่อมแอร์มิตซูบิชิ Heavy Duty อาการคอล์ยเย็นรั่ว จากตอนแรกน้องที่ทำแอร์ด้วยกันได้เคยไปเติมน้ำยาแอร์ให้แล้ว 1 ครั้ง แต่ผ่านไปไม่ถึง 3 วันแอร์รั่วอีกแล้ว วันนี้จึงได้เข้าไปช่วยตรวจเช็คและทำการแก้ไข โดยได้ดำเนินการ ดังนี้
1.ต่อเกจวัดระดับน้ำยาแอร์ว่ามีเหลืออยู่ในระบหรือไม่
2.หากมีน้ำยาแอร์หลงเหลืออยู่ในระบบให้ดูดน้ำยาแอร์กลับเพื่อเก็บในคอมเพรสเซอร์ หากเหลือไม่มากทำการปล่อยน้ำยาออกจากระบบให้หมด
3.ทำการปิดเบรคเกอร์และตัดระบไฟฟ้าออกจากวงจร
3.ถอดฝาครอบชุดแผงคอลืยเย็นออก
4.เริ่มถอดฝาครอบคอล์ยเย็นออก ที่ฝั่งทางด้านซ้ายคลายสกรูเพื่อเปิดฝาครอบท่อทองแดงออกพบคราวน้ำมัน แสดงว่าบริเวณนี้รั่วจึงทำให้แอร์ไม่เย็น
5.ถอดสายไฟระบบจากเบรคเกอร์ที่เข้ามายังชุดคอลโทรลคอล์ยเย็นออก
6.คลายข้อต่อท่อทองแดงบริเวณจุดต่อท่อน้ำทิ้งออก ทั้ง 2 ท่อ จากนั้นให้ยกตัวคอล์ยเย็นขึ้นเล็กน้อยและดึงออกเข้าหาตัว
7.เมื่อถอดตัวคอล์ยเย็นออกมาแล้วให้ยกลงมาด้านล่างทำการถอดชิ้นส่วนต่างๆออกให้หมด เริ่มตั้งแต่ถอดระบบกล่องคอลโทรลไฟฟ้าออก ,ถอดชุดมอเตอร์พัดลมคอล์ยเย็นออก ,ถอดสายเซนเซอร์ต่างๆจากตัวแผงคอล์ยเย็นออก ,จากนั้นยกแผงคอล์ยเย็นออกจากโครงยึด
8.นำแผงคอล์ยเย็นมาตรวจสอบ ดังนี้
8.1 นำข้อต่อสำหรับทดสอบรั่ว มาต่อที่ปลายท่อทองแดงทั้ง 2 ท่อ โดยปลายด้านท่อใหญ่ให้ปิดมิดชิด
ส่วนอีกปลายด้านหนึ่ง (ท่อเล็ก) ให้เชื่อมต่อข้อต่อที่สามารถต่อสายเกจวัดแรงดันเข้าไปได้
8.2 จากนั้นนำสายเกจสีเหลืองต่อกับกับชุดเรคกลูเรเตอร์จากถังไนโตรเจน (ยังไม่ต้องเปิดวาวล์)
8.3 ทำการปรับเรคกลูเรเตอร์ (อุปกรณ์วัดแรงดันจากถังไนโตรเจน) ให้อยู่ในตำแหน่งแรงดัน 0-100 psi.โดยหมุนทวนเข็มนาฬิกาออก เพื่อป้องกันแรงดันจากเรคกลุเรเตอร์มากเกินไป
8.4 นำสายที่ต่อสายเกจวัดแรงดันด้านไฮ (เกจสีแดง) ต่อเข้ากับปลายท่อทองแดงด้านที่ใส่สายเกจวัดแรงดันได้และล็อกให้แน่น
8.5 เปิดฝาปิดถังแรงดันไนโตรเจนออกเล็กน้อย จากนั้นสังเกจเข็มวัดแรงดันจะมี 2 ตัว ตัวแรกจะใช้วัดแรงดันก๊าซไนโตรเจนที่มีทั้งหมดในถัง เข็มเกจจะขึ้นทันทีที่เปิดวาวล์ , ตัวที่ 2 จะใช้วัดแรงดันเมื่อมีการปรับเรคกลูเรเตอร์เข้า - ออก เพื่อให้ได้แรงดันตามที่กำหนด
8.6 นำสายเกจด้านไฮมาต่อที่สายทางออกของชุดเรคกลูเรเตอร์ (ชุดปรับแรงดัน) จากนั้นเปิดวาวล์จากเกจแรงดันด้านไฮเพื่อให้ไนโตรเจนวิ่งเข้าไปในชุดคอล์ยเย็นที่เราต้องการทดสอบรั่ว สังเกตุแรงดันที่เกจของชุดเรกกลูเรเตอร์ว่าอยู่เท่าไหร่ ปกติจะเริ่มทดสอบที่ 100 psi , 150 psi , 200 psi และสูงสุดอยู่ที่ 250 psi ตามลำดับ
8.7 นำชุดคอล์ยเย็นที่อัดไนโตรเจนเข้าไปแล้ว นำไปจุ่มน้ำทิ้งไวสังเกตุดูว่ามีฟองเกิดขึ้นหรือไม่
8.8 เมื่อพบตำแหน่งที่ฟองเกิดขึ้นแล้วให้จดจำตำแหน่งให้ดี จากนั้นนำชุดคอล์ยเย็นขึ้นจากน้ำปล่อยก๊าซไนโตรเจนออก และทำการเชื่อมอุดรอยรั่วบริเวณดังกล่าว
8.9 เมื่อเชื่อมเสร็จแล้วทำให้ท่อเย็นลง จากนั้นต่อสายเกจด้านไฮกลับเข้าไปอีกครั้ง ทำการอัดไนโตรเจนเข้าไปใหม่อีกครั้งตามแรงดันที่ต้องการ จากนั้นนำชุดคอล์ยเย็นลงไปแช่น้ำอีกครั้งแล้วสังเกตุดูว่าฟองอากาศยังมีอยู่หรือไม่ หาดยังพบฟองอากาศอยู่ให้ทำตามขั้นตอนข้างต้นใหม่จนกว่าจะไม่เห็นฟองอากาศ ดดยอัดไนโตรเจนไว้ที่ 250 psi. ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หากแรงดันไม่ตกแสดงว่าไม่รั่ว
8.10 เมื่อทดสอบรั่วเสร็จแล้วทำการประกอบชิ้นส่วนต่างๆที่ถอดออกจากชุดคอล์ยเย็นกลับเข้าตำแหน่งเดิมให้ครบ
8.11 ยกชุดคอล์ยเย็นกลับเข้าไปติดตั้งยังตำแหน่งเดิมที่ผนัง ทำการต่อชุดระบบท่อน้ำยาทั้ง 2 ท่อให้แน่น ต่อท่อน้ำทิ้ง จากนั้นต่อระบบยไฟฟ้า
8.12 จากนั้นทำการทดสอบการรั่วภายในระบบ โดยการต่อสายเกจเส้นสีเหลืองเข้ากับเครื่องแว๊กสุญญากาศ และนำสายเกจด้านโล (แรงดันต่ำเกจสีน้ำเงิน) ต่อเข้ากับท่อทองแดงทางด้านแรงดันต่ำ จากนั้นเปิดเครื่องแว๊กสุญญากาศ ทำการแว๊กสุญญากาศประมาณ 30 นาที เข็มเกจด้านแรงดันต่ำต้องตกลงมาอยู่ที่ -30 นิ้วปรอท จากนั้นปิดวาวล์เกจให้แน่น ,ปิดเครื่องแว๊กสุญญากาศ และสังเกตุที่เข็มเกจว่ามีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นหรือไม่ กรณีพบว่าเข็มเกจมีแรงดันเพิ่มขึ้นแสดงว่ายังมีการรั่วในระบบอยู่
8.13 เมื่อแว๊กสุญญากาศเสร็จแล้วให้ปิดเกจและทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หากเข็มเกจอยู่นิ่งกับที่แสดงว่าไม่มีรั่วซึม ทำการแว๊กสุญญากาศต่ออีก 30 นาที จากนั้นปิดเกจให้แน่นและถอดเครื่องแว๊กออก
8.14 นำสายเกจสีเหลืองมาต่อเข้ากับถังน้ำยาแอร์ และปลายสายทางด้านโล (แรงดันต่ำ) ต่อกับกับท่อทองแดงทางด้านแรงดันต่ำ จากนั้นเปิดวาวล์น้ำยาที่ถังน้ำยา และเปิดวาวล์เกจทางด้านแรงดันต่ำเพื่อให้น้ำยาไหลเข้าสู่ระบบ ฟังเสียงน้ำยาไหลเข้าระบบจะดัง ฟี๊ส........เมื่อสิ้นสุดเสียงน้ำยาแล้วให้ปิดวาวล์เกจให้สนิท
8.15 เปิดเครื่องปรับอากาศรอให้ชุดคอมเพรสเซอร์ทำงาน เมื่อคอมเพรสเซอร์เริ่มทำงานแล้วให้สังเกตุที่วาวล์เกจจะแสดงแรงดันน้ำยาในระบบ น้ำยาภายในระบบจะต้องมีไม่น้อยกว่า 65 psi - 80 psi. หากในระบบมีน้ำยาไม่เพียงพอให้เปิดเกจเพื่อเติมน้ำยาเข้าระบบต่อไป โดยสังเกตุที่เกจวัดแรงดันเป็นระยะๆ
8.16 ใช้คีมแอมป์จับกระแสไฟฟ้าควบคู่การเติมน้ำยาแอร์โดยให้ดูที่เนมเพลทประกอบว่าเครื่องปรับอากาศแต่ละตัวกินกระแสไฟฟ้าเท่าไหร่
8.17 ตรวจสอบอุณหภูมิภายในห้องว่าสามารถทำความเย็นได้หรือไม่ หากอุณหภูมิภายในห้องเย็นตามที่กำหนดถือว่าการซ่อมรอยรั่วผ่าน
วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2561
วิธีล้างแผงระบายความร้อนแอร์รถยนต์ VIGO ง่ายๆด้วยตัวเอง
วิธีล้างแผงระบายความร้อนแอร์รถยนต์ VIGO
วันนี้ว่างจึงมีโอกาสได้ล้างแผงระบายความร้อนแอร์รถยนต์ VIGO ของตัวเองหลังจากที่ติดภาระกิจต่างๆ ไม่ได้ล้างทำความสะอาดสักที
วิธีการถอดกระจังหน้าออกเพื่อล้างทำความสะอาด ขั้นตอนดังนี้
1.ถอดกระจังหน้า (ชุดที่มีโลโก้ TOYOTA) ติดอยู่ถอดออกเลยโดยจะมีพุกพลาสติกล็อกอยู่ด้านบน 2 ตัว เป็นน็อตหัแฉกอีก 2 ตัว (ซ้าย-ขวา) และเป็นพุกพลาสติกที่ด้านล่างอีก 2 ตัว
2.โดยด้านบนน็อตล็อกฝั่งซ้ายและฝั่งขวา จะเป็นน็อตหัวแฉก ขันออกโดยใช้ไขควงแฉกหมุนทวนเข็มนาฬิกาออกมา
3.พุกพลาสติกด้านบนตรงกลางจะมีอีก 2 ตัว เอาออกโดยใช้ไขควงแบนพยายามสอดเข้าไปบริเวณช่องว่างด้านบนหัวพุกจากนั้นค่อยๆงัดขึ้น เมื่องัดขึ้นได้แล้วให้ใช้มือดึงออกมาได้เลย
4.จากนั้นค่อยๆง้างกระจังหน้าออกเข้าหาตัวเล็กน้อย (เบาๆระวังหัก) เพื่อให้สามารถสอดมือและไขควงแบนเข้าไปเพื่องัดพุกพลาสติกด้านล่างฝั่งซ้ายและฝั่งขวาได้ง่าย
5.จากนั้นดึงกระจังหน้าเข้าหาตัว กระจังหน้าก็จะหลุดออกมาได้อย่่างง่ายๆ
6.ใช้ปืนฉีกน้ำแรงดันสูงโดยปรับปลายปืนฉีดน้ำให้กระจายออกเพื่อป้องกันแผงระบายความร้อนล้ม จากนั้นฉีดล้างทำความสะอาดให้ทั่วแผงระบายความร้อน
7.ใช้น้ำยาล้างคอล์ย Super Clean ผสมน้ำเปล่าในอัตราส่วนน้ำยาล้างคอล์ยครึ่งขวดผสมกับน้ำเปล่าครึ่งขวด ผสมให้เข้ากันจากนั้นนำไปราดลงบนตัวแผงระบายความร้อนให้ทั่วแผง
8.จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เพื่อให้น้ำยากัดเอาคราบสกปรกต่างๆบนแผงระบายความร้อนออก โดยสังเกตจากฟองน้ำยาที่กัดคราบสกปรกออกมา เมื่อครบ 15 นาทีแล้ว ให้ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงปรับน้ำให้กระจายและฉีดล้างทำความสะอาดให้ทั่วทั้งแผงระบายความร้อน
9.ใช้น้ำยาล้างคอล์ยที่เหลืออีกครึ่งขวด ราดลงบนแผงระบายความร้อนให้ทั่วแผงอีกครั้งและทิ้งไว้อีกประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดล้างทำความสะอาดแผงระบายความร้อนให้สะอาดอีกครั้ง
10.ใช้ Blower เป่าไล่น้ำออกจากแผงระบายความร้อนให้แห้ง และเป่าบริเวณจุดต่อสายไฟต่างๆที่น้ำอาจกระเด็นใส่ให้แห้ง
11.ประกอบชุดกระจังหน้ากลับเข้าตำแหน่งเดิม โดยใส่พุกพลาสติกด้านล่างก่อนทั้ง 2 ตัว (อยู่ด้านซ้ายและ-ขวา) จากนั้นจึงใส่พุกพลาสติกด้านบน (บริเวณกลางกระจังหน้าอีก 2 ตัว) จากนั้นจึงใช้ไขควงแฉกขัดล็อกน็อตหัวแฉกทางด้านซ้ายและด้านขวาให้แน่น
12.ตรวจสอบชุดกระจังหน้าให้เรียบร้อยว่ามีการประกอบถูกต้อง และลงล็อกแน่นสนิททุกด้าน จากนั้นทดสอบการทำงานของแผงระบายความร้อนโดยการสตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดให้แอร์ทำงาน จะพบว่าแอร์มีความเย็นมากขึ้น และที่แผงระบายความร้อนด้านหน้าก็สามารถดูดระบายความร้อนได้ดีมากยิ่งขึ้น
วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561
วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561
วิธีการเปลี่ยนยอยขับแกนมอเตอร์พัดลมคอล์ยเย็นแอร์ชนิดแขวนใต้ฝ้า
วิธีเปลี่ยนยอยขับแกนมอเตอร์พัดลมคอล์ยเย็นแอร์ชนิดแขวนใต้ฝ้า
วิธีการเปลี่ยนยอยยางขับแกนมอเตอร์ สามารถดำเนินการได้ ดังนี้
1.ปิดเครื่องปรับอากาศ และปิดเมนระบไฟฟ้าให้เรียบร้อย
2.ทำการปลดแผ่นพลาสติกสำหรับวางฟิตเตอร์กรองฝุ่นออก
3.ถอดขั้วต่อสายไฟฟ้าที่ต่อเข้ากับมอเตอร์พัดลมคอล์ยเย็น
4.ถอดน็อตล็อกในจุดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชุดโครงยึดมอเตอร์พัดลมออกให้หมด และจดจำตำแหน่งยึดน็อตให้ดี
5.ปลดสปริงหรือลวดที่ใช้ผูกมัดกับโครงยึดมอเตอร์พัดลมคอล์ยเย็นออก
6.ค่อยๆยกชุดโครงยึดมอเตอร์พัดลมคอล์ยเย็นขึ้นเล็กน้อย จากนั้นดึงกลับเข้าหาตัวเพื่อให้หลุดจากตำแหน่งยึดน็อตตรงกลาง ,ด้านซ้ายและด้านขวา
7.ค่อยๆยกลงมายังพื้นด้านล่าง โดยการยกต้องค่อยๆขยับออกมาทีละด้านเนื่องจากพื้นที่สำหรับยึดโครงพัดลมคับแคบ
8.ใช้ไขควงแฉกคลายสกรูหัแฉกที่ล็อกชุดฝาครอบใบพัดลมออกให้หมดทุกตัว
9.ถอดฝาปิดด้านข้างชุดครอบใบพัดลม Blower ออกทั้ง 2 ด้าน
10.ใช้ไขควงแฉกคลายสกรูล็อกบู๊ทรองแกนมอเตอร์ออก จะมีสกรูอยู่ 2 ตัว
11.จากนั้นเลื่อนชุดฝาครอบใบพัดลมออกมาทางด้านข้างอย่างระมัดระวัง (โดยขั้นตอนนี้ให้ทำทีละ 1 ด้าน) ซ้ายและขวา
12.ใช้ประแจ L หกเหลี่ยมคลายน็อตตัวหนอนออกมาโดยหมุนทวนเข็มนาฬิกา และจดจำตำแหน่งความลึกของการวางยอยไว้เพื่อเวลสใส่ยอยกลับคืนจะได้อยู่ในตำแหน่งเดิม
13.ใส่ยอยตัวใหม่ทดแทนลงไปที่ตำแหน่งเดิม โดยให้ใช้ประแจ L หกเหลี่ยมขันน็อตตัวหนอนหมุนตามเข็มนาฬิกาเข้าไป โดยให้ขันล็อกยอยทางด้านที่มีใบพัดลม Blower ยึดให้แน่นก่อน จากนั้นจึงนำยอยอีกด้านไปสวมใส่กับแกนมอเตอร์พัดลมและใช้ประแจ L หกเหลี่ยมขันล็อกให้แน่น
14.นำชุดบู๊ทรองแกนมอเตอร์ติดตั้งกลับเข้าไปยังตำแหน่งเดิม โดยปรับตั้งให้ได้ระดับเดียวกันกับแกนมอเตอร์หมุน จากนั้นใช้ไขควงแฉกขันสกรูตามเข็มนาฬิกากลับเข้าไปให้แน่น
15.นำฝาครอบชุดใบพัดลม Blower ติดตั้งกลับเข้าไปยังตำแหน่งเดิมจากนั้นใช้ไขควงแฉกขันสกรูตามเข็มนาฬิกาเข้าไป จำนวนทั้งหมด 4 ตัว
16.ลองใช้มือจับใบพัดลม Blower หมุนดูว่ามีการติดขัดกับฝาครอบ Blower หรือไม่ หากติดขัดให้ทำการปรับตั้งตำแหน่งใบพัดลม Blower ใหม่ , หากไม่ติดขัดให้ใส่ฝาปิดด้านข้างชุดฝาครอบ Blower กลับเข้าไปยังตำแหน่งเดิม
17.เมื่อทำการเปลี่ยนยอยครบทั้ง 2 ด้านเสร็จแล้ว ให้นำขึ้นไปติดตั้งยังตำแหน่งเดิมให้เรียบร้อย
18.เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วทดลองเดินเครื่องอีกครั้งว่ามอเตอร์มีการหมุนสะดวก ไม่ติดขัดและมีเสียงดังถือว่าทำงานจบเรียบร้อย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)