รีวิวประสบการณ์งานซ่อมแก้ไขงานช่าง จากประสบการณืจริงที่เจอในหน้างานพร้อมทั้งแนะนำแนวทางในการตรวจสอบและแก้ไข
วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2561
วิธีการซ่อมรั่วแอร์มิตชูบิชิ Heavy Duty คอล์ยเย็นรั่วแบบละเอียดทุกขั้นตอน
วิธีซ่อมแอร์มิตซูบิชิ Heavy Duty อาการคอล์ยเย็นรั่ว จากตอนแรกน้องที่ทำแอร์ด้วยกันได้เคยไปเติมน้ำยาแอร์ให้แล้ว 1 ครั้ง แต่ผ่านไปไม่ถึง 3 วันแอร์รั่วอีกแล้ว วันนี้จึงได้เข้าไปช่วยตรวจเช็คและทำการแก้ไข โดยได้ดำเนินการ ดังนี้
1.ต่อเกจวัดระดับน้ำยาแอร์ว่ามีเหลืออยู่ในระบหรือไม่
2.หากมีน้ำยาแอร์หลงเหลืออยู่ในระบบให้ดูดน้ำยาแอร์กลับเพื่อเก็บในคอมเพรสเซอร์ หากเหลือไม่มากทำการปล่อยน้ำยาออกจากระบบให้หมด
3.ทำการปิดเบรคเกอร์และตัดระบไฟฟ้าออกจากวงจร
3.ถอดฝาครอบชุดแผงคอลืยเย็นออก
4.เริ่มถอดฝาครอบคอล์ยเย็นออก ที่ฝั่งทางด้านซ้ายคลายสกรูเพื่อเปิดฝาครอบท่อทองแดงออกพบคราวน้ำมัน แสดงว่าบริเวณนี้รั่วจึงทำให้แอร์ไม่เย็น
5.ถอดสายไฟระบบจากเบรคเกอร์ที่เข้ามายังชุดคอลโทรลคอล์ยเย็นออก
6.คลายข้อต่อท่อทองแดงบริเวณจุดต่อท่อน้ำทิ้งออก ทั้ง 2 ท่อ จากนั้นให้ยกตัวคอล์ยเย็นขึ้นเล็กน้อยและดึงออกเข้าหาตัว
7.เมื่อถอดตัวคอล์ยเย็นออกมาแล้วให้ยกลงมาด้านล่างทำการถอดชิ้นส่วนต่างๆออกให้หมด เริ่มตั้งแต่ถอดระบบกล่องคอลโทรลไฟฟ้าออก ,ถอดชุดมอเตอร์พัดลมคอล์ยเย็นออก ,ถอดสายเซนเซอร์ต่างๆจากตัวแผงคอล์ยเย็นออก ,จากนั้นยกแผงคอล์ยเย็นออกจากโครงยึด
8.นำแผงคอล์ยเย็นมาตรวจสอบ ดังนี้
8.1 นำข้อต่อสำหรับทดสอบรั่ว มาต่อที่ปลายท่อทองแดงทั้ง 2 ท่อ โดยปลายด้านท่อใหญ่ให้ปิดมิดชิด
ส่วนอีกปลายด้านหนึ่ง (ท่อเล็ก) ให้เชื่อมต่อข้อต่อที่สามารถต่อสายเกจวัดแรงดันเข้าไปได้
8.2 จากนั้นนำสายเกจสีเหลืองต่อกับกับชุดเรคกลูเรเตอร์จากถังไนโตรเจน (ยังไม่ต้องเปิดวาวล์)
8.3 ทำการปรับเรคกลูเรเตอร์ (อุปกรณ์วัดแรงดันจากถังไนโตรเจน) ให้อยู่ในตำแหน่งแรงดัน 0-100 psi.โดยหมุนทวนเข็มนาฬิกาออก เพื่อป้องกันแรงดันจากเรคกลุเรเตอร์มากเกินไป
8.4 นำสายที่ต่อสายเกจวัดแรงดันด้านไฮ (เกจสีแดง) ต่อเข้ากับปลายท่อทองแดงด้านที่ใส่สายเกจวัดแรงดันได้และล็อกให้แน่น
8.5 เปิดฝาปิดถังแรงดันไนโตรเจนออกเล็กน้อย จากนั้นสังเกจเข็มวัดแรงดันจะมี 2 ตัว ตัวแรกจะใช้วัดแรงดันก๊าซไนโตรเจนที่มีทั้งหมดในถัง เข็มเกจจะขึ้นทันทีที่เปิดวาวล์ , ตัวที่ 2 จะใช้วัดแรงดันเมื่อมีการปรับเรคกลูเรเตอร์เข้า - ออก เพื่อให้ได้แรงดันตามที่กำหนด
8.6 นำสายเกจด้านไฮมาต่อที่สายทางออกของชุดเรคกลูเรเตอร์ (ชุดปรับแรงดัน) จากนั้นเปิดวาวล์จากเกจแรงดันด้านไฮเพื่อให้ไนโตรเจนวิ่งเข้าไปในชุดคอล์ยเย็นที่เราต้องการทดสอบรั่ว สังเกตุแรงดันที่เกจของชุดเรกกลูเรเตอร์ว่าอยู่เท่าไหร่ ปกติจะเริ่มทดสอบที่ 100 psi , 150 psi , 200 psi และสูงสุดอยู่ที่ 250 psi ตามลำดับ
8.7 นำชุดคอล์ยเย็นที่อัดไนโตรเจนเข้าไปแล้ว นำไปจุ่มน้ำทิ้งไวสังเกตุดูว่ามีฟองเกิดขึ้นหรือไม่
8.8 เมื่อพบตำแหน่งที่ฟองเกิดขึ้นแล้วให้จดจำตำแหน่งให้ดี จากนั้นนำชุดคอล์ยเย็นขึ้นจากน้ำปล่อยก๊าซไนโตรเจนออก และทำการเชื่อมอุดรอยรั่วบริเวณดังกล่าว
8.9 เมื่อเชื่อมเสร็จแล้วทำให้ท่อเย็นลง จากนั้นต่อสายเกจด้านไฮกลับเข้าไปอีกครั้ง ทำการอัดไนโตรเจนเข้าไปใหม่อีกครั้งตามแรงดันที่ต้องการ จากนั้นนำชุดคอล์ยเย็นลงไปแช่น้ำอีกครั้งแล้วสังเกตุดูว่าฟองอากาศยังมีอยู่หรือไม่ หาดยังพบฟองอากาศอยู่ให้ทำตามขั้นตอนข้างต้นใหม่จนกว่าจะไม่เห็นฟองอากาศ ดดยอัดไนโตรเจนไว้ที่ 250 psi. ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หากแรงดันไม่ตกแสดงว่าไม่รั่ว
8.10 เมื่อทดสอบรั่วเสร็จแล้วทำการประกอบชิ้นส่วนต่างๆที่ถอดออกจากชุดคอล์ยเย็นกลับเข้าตำแหน่งเดิมให้ครบ
8.11 ยกชุดคอล์ยเย็นกลับเข้าไปติดตั้งยังตำแหน่งเดิมที่ผนัง ทำการต่อชุดระบบท่อน้ำยาทั้ง 2 ท่อให้แน่น ต่อท่อน้ำทิ้ง จากนั้นต่อระบบยไฟฟ้า
8.12 จากนั้นทำการทดสอบการรั่วภายในระบบ โดยการต่อสายเกจเส้นสีเหลืองเข้ากับเครื่องแว๊กสุญญากาศ และนำสายเกจด้านโล (แรงดันต่ำเกจสีน้ำเงิน) ต่อเข้ากับท่อทองแดงทางด้านแรงดันต่ำ จากนั้นเปิดเครื่องแว๊กสุญญากาศ ทำการแว๊กสุญญากาศประมาณ 30 นาที เข็มเกจด้านแรงดันต่ำต้องตกลงมาอยู่ที่ -30 นิ้วปรอท จากนั้นปิดวาวล์เกจให้แน่น ,ปิดเครื่องแว๊กสุญญากาศ และสังเกตุที่เข็มเกจว่ามีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นหรือไม่ กรณีพบว่าเข็มเกจมีแรงดันเพิ่มขึ้นแสดงว่ายังมีการรั่วในระบบอยู่
8.13 เมื่อแว๊กสุญญากาศเสร็จแล้วให้ปิดเกจและทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หากเข็มเกจอยู่นิ่งกับที่แสดงว่าไม่มีรั่วซึม ทำการแว๊กสุญญากาศต่ออีก 30 นาที จากนั้นปิดเกจให้แน่นและถอดเครื่องแว๊กออก
8.14 นำสายเกจสีเหลืองมาต่อเข้ากับถังน้ำยาแอร์ และปลายสายทางด้านโล (แรงดันต่ำ) ต่อกับกับท่อทองแดงทางด้านแรงดันต่ำ จากนั้นเปิดวาวล์น้ำยาที่ถังน้ำยา และเปิดวาวล์เกจทางด้านแรงดันต่ำเพื่อให้น้ำยาไหลเข้าสู่ระบบ ฟังเสียงน้ำยาไหลเข้าระบบจะดัง ฟี๊ส........เมื่อสิ้นสุดเสียงน้ำยาแล้วให้ปิดวาวล์เกจให้สนิท
8.15 เปิดเครื่องปรับอากาศรอให้ชุดคอมเพรสเซอร์ทำงาน เมื่อคอมเพรสเซอร์เริ่มทำงานแล้วให้สังเกตุที่วาวล์เกจจะแสดงแรงดันน้ำยาในระบบ น้ำยาภายในระบบจะต้องมีไม่น้อยกว่า 65 psi - 80 psi. หากในระบบมีน้ำยาไม่เพียงพอให้เปิดเกจเพื่อเติมน้ำยาเข้าระบบต่อไป โดยสังเกตุที่เกจวัดแรงดันเป็นระยะๆ
8.16 ใช้คีมแอมป์จับกระแสไฟฟ้าควบคู่การเติมน้ำยาแอร์โดยให้ดูที่เนมเพลทประกอบว่าเครื่องปรับอากาศแต่ละตัวกินกระแสไฟฟ้าเท่าไหร่
8.17 ตรวจสอบอุณหภูมิภายในห้องว่าสามารถทำความเย็นได้หรือไม่ หากอุณหภูมิภายในห้องเย็นตามที่กำหนดถือว่าการซ่อมรอยรั่วผ่าน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น